Sunday, June 19, 2011

การที่พระธรรมจะรุ่งเรืองในโลกเป็นของยาก




พุทธดำรัสตอบ "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนมหาปฐพีนี้กลายเป็นน่านน้ำเดียวกัน บุรุษพึงโยนแอกมีช่องเดียวไปในน้ำนั้น ลมในทิศตะวันออก พึงพัดเอาแอกนั้นไปทางทิศตะวันตก ลมทิศตะวันตกพัดเอาไปทางทิศตะวันออก ลมทิศเหนือพัดเอาไปทางทิศใต้ ลมทิศใต้พัดเอาไปทางทิศเหนือ เต่าตาบอดในห้วงน้ำนั้นจะโผล่ขึ้นมาหนึ่งครั้งทุก ๆ ระยะเวลาผ่านไปหนึ่งร้อยปี เธอจะเห็นข้อนั้นอย่างไร เต่าตาบอดนั้น...จะมีโอกาสสอดคอเข้าไปในแอกที่มีช่องเดียวนั้นบ้างหรือไม่"

ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า "การที่เต่าตาบอด จะมีโอกาสสอดคอเข้าไปในแอกที่มีช่องเดียวนั้น เป็นของยาก"

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลายการได้ความเป็นมนุษย์เป็นของยาก การที่พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นในโลกที่เป็นของยาก การที่พระธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้วจะรุ่งเรืองในโลกก็เป็นของยาก.

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ท่านได้ความเป็นมนุษย์แล้ว พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกแล้ว และพระธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้วก็เจริญรุ่งเรืองอยู่ในโลก เพราะฉะนั้นเธอทั้งหลายจึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่านี้ทุกข์ นี้สมุทัย นี้นิโรธ นี้อริยมรรคมีองค์ ๘"

(จาก พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค ฉิคคฬสูตรที่ 2)


เพื่อนชาวพุทธร่วมสมัยทั้งหลาย ชีวิตมนุษย์นี้แสนสั้นนัก อย่าปล่อยให้ตนเป็นโมฆบุรุษ คือบุรุษผู้สูญเปล่า เกิดมาเพื่อตายเปล่า


เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว พระพุทธเจ้าก็ได้อุบัติขึ้นแล้ว เราจงรีบเร่งทำความเพียรตามทางพระศาสดา เพื่อเข้าสู่กระแสพระนิพพานกันเถิด


ให้สมดังคำปัจฉิมวาจาของพระพุทธองค์ว่า


“ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา.. ท่านทั้งหลาย จงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด.. นี่เป็นพระวาจาครั้งสุดท้าย ของเราตถาคต ”